The learning of independent
อิสระของการเรียนรู้ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555
มหกรรมตลาดนัดศิลปะ (เด็กรักป่า)
มหกรรมตลาดนัดศิลปะ
(ศูนย์เรียนรู้ศิลปะธรรมชาติและเทคโนโลยี เด็กรักป่า สุรินทร์)
ครั้งหนึ่งของชีวิตกับการเข้ามาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติอย่างไม่รู้ลืม
ได้รับโอกาสดีๆ มาศึกษาดูงานในชุมชน ตำบลสำโรง จังหวัดสุรินทร์
ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ยังมีป่าไม้ที่เป็นธรรมชาติสวยงามและมีความอุดมสมบูรณ์มากๆ อยู่ใกล้ตัว
ที่ชาวชุมชนบ้านสำโรงได้ช่วยกันรักษาและอนุรักษ์ให้คงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างดีงาม
จุดเริ่มต้น..การเข้าสู่ป่ายาว
ภาพด้านล่างนี้ : ตูมกา ต้นไม้มหัศจรรย์
คือ ต้นตูมกา เป็นต้นไม้ที่น่าสนใจมากและหายากมากในปัจจุบันนี้
เพราะมีประวัติตามตำนานเล่าสืบทอดกันว่า
ต้นตูมกา สามารถนำไปช่วยรักษาคนที่ตายเเล้ว ให้กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้
และที่สำคัญ ต้นตูมกา นั้น ลำต้นจะไม่เหมือนกับต้นไม้ทั่วๆไป
และยังมีรูปร่างคล้ายหินเเข็งๆอีกด้วย
ต้นตูมกา เป็นต้นไม้ที่เหลืออยู่ต้นเดียวในป่า
ภาพด้านล่างนี้ : ต้นหวาย (หวาย)
หวาย เป็นต้นไม้ที่แสดงให้รู้ว่า ในพื้นที่ป่าใดที่มี หวาย เกิดขึ้นมานั้น
พื้นที่ป่าไม้นั้นๆ จะมีความอุดมสมบูรณ์มาก
หวาย ยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้เกิดสมดุลทางธรรมชาติ
และนับว่า หวาย เป็นไม้เศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรอีกด้วย
ภาพด้านล่างนี้ : ปลวกทหาร
ปลวกทหาร มีลำตัวใหญ่และมีหัวสีเข้มกว่า ปลวกทั่วๆไป
ปลวกทหาร มีเขี้ยวที่ใหญ่และแข็งแรง และยังมีพิษมาก
ไม่สามารถ หากินเองได้ต้องให้ปลวกงานเป็นตัวป้อนอาหาร
ปลวกทหารไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่มันจะรับรู้ทันที ถ้ามีศัตรูเข้่ามาใกล้ตัว
ภาพด้านล่างนี้ : แมงมุม
ข้าพเจ้ายังไม่รู้จัก สายพันธุ์ของแมงมุมตัวนี้
ภาพด้านล่างนี้ : ผลไม้ป่า เรียกกันว่า "บักผีผ่วน"
บักผีผ่วน เป็นผลไม้ป่า มีลักษณะกลมรีอยู่เป็นพวงๆ
มีผลสีแดงส้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว หากินได้ในเขตอีสาน
บักผีผ่วน เป็นผลไม้ที่เกิดในพื้นที่ป่ารก
ภาพด้านล่างนี้ : ต้นพะยูง
ต้นพะยูง เป็นต้นไม้ที่มีผู้คนต้องการมากที่สุด เพราะถือว่าเป็นต้นไม้มงคล
ที่นิยมนำไปสร้างบ้านเรือน หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ต้นพะยูง จะถูกลอบตัดไปขายต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
แต่ในภาพนี้มีข้อสังเกตว่า ทำไมถึงมีเหล็กแหลมติดเต็ม ต้นพะยูง ทั้งต้น
เพราะว่า ผู้คนในชุมชนเห็นว่ามีคนชอบเข้ามาลักลอบตัด ต้นพะยูง จำนวนมาก
ตัดไปต้นนั้นก็งอกออกมาใหม่ จึงนำเหล็กธนูมาปักไว้
และเปรียบให้เหมือนต้นงิ้ว เพื่อสาปแช่งคนที่ชอบมาตัดจะได้สำนึกถึง สิ่งที่จะทำลายต่อป่า
แต่ปัจจุบันนี้ ต้นพะยูง ในเขตป่าสำโรง มีเพียงต้นเดียวทั้งป่า
เก็บตกภาพปรัชญาชีวิต

ศิลปะนั้นเปรียบเหมือนชีวิต
หากชีวิต ขาดจิตใจที่เป็นศิลปะ
ทั้งศิลปะทางความคิด การกระทำ
ชีวิตคนเรานั้นย่อมไม่สมบูรณ์
ข้อคิดจากนางสาวจุฑามาศ แก้วกาญจน์
ภาพที่น่าประทับใจ ทำให้นึกย้อนไปในวันวาน
ในบึงกว้าง
เพียงเราเลือกมอง
สิ่งที่ถูกใจ
เราก็จะเจอสิ่งที่ถูกใจ
เลือกมองบัวที่งดงาม
เพื่อความอยู่รอด
ปรัชญาจากอาจารย์จักรพงษ์ เจือจันทร์
เก็บตกภาพที่ประทับใจ
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ประวััติภาษาไทย

ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติของคนไทยมาแล้วช้านาน ถึงแม้คนไทยจะถูกชาติอื่นรุกราน ต้องถอยร่นลงมาทางใต้ จนถึงที่อยู่ปัจจุบัน แต่คนไทยก็ยังรักษาภาษาของตนไว้ได้ หลักฐานแสดงว่าภาษาไทยเป็นภาษาของ คนไทยโดยเฉพาะ ก็คือ ภาษาไทย มีลักษณะพิเศษไม่ซ้ำแบบของภาษาใดในโลก ที่มีผู้กล่าวว่า ภาษาไทยเป็นตระกูลเดียวกับภาษาจีน เนื่องจากเป็นภาษาคำโดดด้วยกัน และมีคำพ้องเสียงและความหมายเหมือนกันอยู่หลายคำ เช่น ขา โต๊ะ เก้าอี้ เข่ง หรือ จำนวนเลข การที่ภาษาไทยกับภาษาจีนมีลักษณะตรงกันบางประการดังกล่าว ใช่ว่าภาษาไทยมาจากจีนหรือจีนมาจากไทย แต่คงเป็นเพราะชาติไทยกับจีนเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดช้านาน และคงเคยใช้อักษรจีนเขียนภาษาไทย ภาษาไทยกับจีนจึงมีส่วนคล้ายคลึงกันได้ ข้อสังเกตที่ว่า ภาษาไทยกับจีนเป็นคนละภาษาต่างหาก จากกันก็คือ ระเบียบการเข้าประโยคต่างกัน เช่น คำวิเศษณ์ในภาษาไทยส่วนใหญ่ อยู่หลังคำที่ประกอบหรือขยาย ส่วนภาษาจีน ส่วนใหญ่อยู่ข้างหน้า
ภาษาของชาติต่างๆดังกล่าว จึงเข้ามาปะปนอยู่ในภาษาไทยเป็นอันมาก ภาษาต่างชาติที่ประสมอยู่ในภาษาไทยมากที่สุด คือ บาลีและสันสกฤต เรารับภาษาบาลีเข้ามาทางพุทธศาสนา และรับภาษาสันสกฤตทางศาสนาพราหมณ์ ภาษาอื่นที่เจืออยู่ในภาษาไทยมากรองลงมา คือ ภาษาขอม (เขมร) ทั้งนี้ เพราะขอมหรือเขมร เคยเป็นชาติที่มีอำนาจมากและนานที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีน
ลักษณะของภาษาไทย
วิวัฒนาการของภาษาไทย
ภาษาไทยมีวิวัฒนาการเป็น ๒ สมัย คือ ภาษาไทยแท้ หรือภาษาไทยดั้งเดิม และภาษาไทยปัจจุบันหรือภาษาไทยประสม ภาษาไทยแท้ หรือ ภาษาไทยดั้งเดิม เป็นภาษาไทยก่อน อพยพเข้ามาอยู่ในสุวรรณภูมิ หรือ แหลมทอง
ภาษาไทยปัจจุบัน หรือ ภาษาไทยประสม คือ ภาษาไทยนับตั้งแต่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสุวรรณภูมิแล้ว
ลักษณะภาษาไทยแท้
ภาษาไทยแท้เป็นภาษาดั้งเดิมประจำชาติไทย นับถอยหลังตั้งแต่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศจีน ปัจจุบันขึ้นไปเป็นภาษาในระยะที่ยังไม่ได้ เกี่ยวข้องกับชาติอื่นมากนัก ภาษาไทยมีลักษณะดังนี้
- คำส่วนมากเป็นคำโดด คือ คำพยางค์เดียว เช่น พ่อ แม่ มือ แขน ช้าง ม้า ฯลฯ
- ไม่ค่อยมีคำควบกล้ำ
- คำขยาย อยู่ข้างหลังคำที่ถูกขยาย เช่น บ้านใหญ่ พูดมาก ดียิ่ง คำที่เขียนตัวหนาเป็นคำขยาย
- ถ้าต้องการ สร้าง คำใหม่ ใช้วิธีรวมคำมูลเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดคำประสมขึ้น เช่น โรงเรียน แม่น้ำ พ่อตา
- ในการเขียน ใช้ตัวสะกดตรงตามมาตราแม่ กก ใช้ ก สะกด แม่ กน ใช้ น สะกด แม่ กบ ใช้ บ สะกด เช่น นก กิน กบ
- ในการเขียน ไม่ใช้ตัวการันต์ คำทุกคำอ่านออกเสียงได้หมดทุกพยางค์
- ไม่มีหลักไวยกรณ์ คือ ระเบียบของภาษาแน่นอนเหมือนภาษาของบางชาติ เช่น บาลี สันสกฤต และอังกฤษ เป็นต้น กล่าวคือ ไม่มีระเบียบพิเศษเกี่ยวกับ พจน์ เพศ วิภัตติ ปัจจัย อุปสรรค กาล มาลา วาจก
- เป็นภาษามีเสียงดนตรี นิยมใช้ไม้วรรณยุกต์กำกับเสียง
เป็นภาษาไทยเริ่มตั้งแต่คนไทยย้ายถิ่นฐานลงมาอยู่ในแหลมทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งประเทศไทยทุกวันนี้ เมื่อไทยเข้ามาอยู่ในดินแดนแถบนี้ได้เกี่ยวข้องกับชนหลายชาติหลายภาษา ซึ่งมีระเบียบภาษาแตกต่างไปจากไทย ภาษาของต่างชาติที่เข้ามามีอิทธิพลเหนือภาษาไทยปัจจุบัน คือ บาลี สันสกฤต เขมร ชวา มอญ จีน พม่า มลายู เปอร์เซีย และภาษาของชาติยุโรปบางภาษา เช่น โปรตุเกส และอังกฤษ เป็นต้น เมื่อภาษาไทยต้องเกี่ยวข้องกับภาษาของต่างชาติดังกล่าว ประกอบกับสถานะทางภูมิศาสตร์และเหตุการณ์ทางสังคมเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา ภาษาไทยปัจจุบันจึงมีลักษณะผิดเพี้ยนไปจากเดิมมากคือ มีลักษณะพิเศษเพิ่มขึ้นจากภาษาไทยแท้ดังนี้
- มีคำหลายพยางค์เพิ่มขึ้น
- มีคำควบกล้ำมากขึ้น
- มีการสร้างคำใหม่ตามวิธีการสมาส และสนธิของภาษาบาลีและสันสกฤต และตามวิธีแผลงคำตามอย่างภาษาเขมร
- ใช้ตัวสะกดไม่ค่อยตรงตามมาตรา ตามอย่างภาษาอื่น เช่น แม่ กก ใช้ ข ค ฆ สะกด แม่ กน ใช้ ญ ณ ร ล ฬ สะกด แม่ กด ใช้ จ ช ฎ ฏ ฐ ฒ ต ถ ท ธ สะกดเพิ่มขึ้น
- มีตัวการัตน์เพิ่มขึ้น
ลักษณะเด่นของภาษาไทย
ภาษาไทยไทม่ว่าจะเป็นภาษาไทยแท้ หรือ ภาษาไทยปัจจุบัน มีลักษณะเด่นผิดแผกจากลักษณะของภาษาบาลีสันสกฤต หรือ อังกฤษ ดังนี้- ภาษาไทยประกอบด้วยคำโดด มากกว่าภาษาบาลี สันสกฤต หรือ อังกฤษ เช่น
คำไทย บาลี อังกฤษ พ่อ ปิตุ father น้ำ อุทก water ฟ้า นภา sky - ไม่มีหลักไวยกรณ์ เช่นเกี่ยวกับ ปัจจัย อุปสรรค กาล เพศ พจน์ ฯลฯ แน่นอนอย่างภาษาบาลีสันสกฤต หรือ อังกฤษ คำไทยแท้ไม่มีการเปลี่ยนรูปคำโดยการลงปัจจัย เพื่อแสดงชนิดของคำ กาล เพศ พจน์ ฯลฯ ถ้าต้องการบอกชนิดของคำ ใช้คำมาเพิ่มข้างหน้า ถ้าต้อการบอก กาล เพศ พจน์ ใช้คำมาต่อข้างหน้าหรือข้างหลัง โดยไม่เปลี่ยนรูปคำเดิม เช่น
เดิน กริยา การเดิน นาม ดี วิเศษณ์ ความดี " กินอยู่ กาลสามัญปัจจุบัน กินแล้ว อดีตกาลสมบูรณ์ ช้างพลาย เพศชาย ช้างพัง เพศหญิง เด็กคนเดียว เอกพจน์ เด็กหลายคน พหูพจน์
คำบาลีสันสกฤต หรือ อังกฤษ มีการเปลี่ยนรูปคำในตัวเพื่อแสดงหน้าที่กาล เพศ พจน์ ของคำ เช่นกร (ทำ) กริยา การก (ผู้ทำ) นามนาม รม (ยินดี) กริยา รมณีย (น่ายินดี) คุณนาม กุมาโร (เด็กชายคนเดียว) กุมารา (เด็กชายหลายคน) กุมาโร (เด็กชาย) กุมารี (เด็กหญิง) คจฉติ (ย่อมไป) คโต (ไปแล้ว) die (ตาย) กริยา death (ความตาย) นาม man (คนผู้ชายคนเดียว) men (คนผู้ชายหลายคน) prince (เจ้าชาย) princess (เจ้าหญิง) work (ทำงาน) worked (ได้ทำงาน) - ภาษาไทยเป็นภาษาเสียงดนตรี คือ เมื่อเสียงของคำสูงต่ำผิดไป ความหมายย่อมเปลี่ยนไปด้วย จึงจำต้องใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์กำกับคำไว้คา ข่า ข้า ค้า ขา มีความหมายแตกต่างกันแต่ละคำส่วนภาษาบาลีสันสกฤต หรือ อังกฤษ ไม่ใช่ภาษาเสียงดนตรี เมื่อเสียงคำเพี้ยนไปความหมายก็ไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเต (เขาทั้งหลาย) ถึงแม้จะออกเสียงเป็น เต่ เต้ เต๊ เต๋ หรือ car (รถยนต์) ออกเสียงเป็น คา ข่า ข้า ค้า ขา ก็คงมีความหมายเช่นเดิม
- คำขยายในภาษาไทย ส่วนมากอยู่ข้างหลังคำที่ถูกขยาย เช่น คนดี วิ่งเร็ว สูงมาก ส่วนคำภาษาอื่น เช่น บาลี สันสกฤต อังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาจีน ซึ่งมัลักษณะคล้ายภาษาไทย ส่วนมากคำขยายอยู่ข้างหน้าตำที่มันขยาย

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555
คนสู้ชีวิต
ข้อคิดดีๆ จาก 3 หนุ่ม 3 มุม
แดน-วรเวช ดานุวงศ์
การที่เราลงมือทำอะไรจริงจัง
แต่กลับโดนปฏิเสธอยู่บ่อยๆ
ก็นับว่าเป็นข้อดีเช่นกัน...
เพราะมันทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง
จนมั่นใจว่าสามารถรับมือกับปัญหาที่เข้ามากระแทกตัวเองในอนาคตได้ทุกอย่าง
ไม่ว่าปัญหานั้นจะหนักเพียงใด
เราก็จะไม่รู้สึกกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
ถ้าคนเราคิดจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
มันต้องเริ่มก่อนเลย
คิดให้รอบคอบสักนิดแล้วก็เริ่มมันเลย
อย่าคิดวนไปวนมา
เพราะมันจะไม่ได้คำตอบว่าชีวิตนี้...
คุณจะทำได้หรือเปล่า
แต่ถ้าคุณเริ่มรู้ว่า "ทำได้หรือไม่ได้"
คำตอบมันจะมาเอง..เพียงแค่คุณเริ่มทำ
เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี

ถ้าทุกคนมีความเชื่อว่า ถ้าคนเราทำอะไรอย่างจริงจัง แล้วสุดท้ายมันออกมาดี
แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานก็ตาม
แต่เราต้องไม่ท้อและไม่หยุดไปก่อน
..สุดท้ายมันก็ต้องออกมาดี.
เต๋อ-นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์

ชีวิตมันต้องบาลานซ์ระหว่างงานที่เราชอบ..และงานที่เราได้เงินให้ได้
วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ฟังกี่ทีก็ "น้ำตาไหล"
"แม่"
เสก โลโซ
ป่านนี้ จะเปนอย่างไร ฝากดวงใจ ดวงนี้เป็นห่วง จากลูกน้อย
ที่แม่หวงห่วง อยู่เมืองหลวง ศิวิไล ไกลบ้านเรา
"คิดถึงแม่ขึ้นมา น้ำตามันก็ไหล อยากกลับไปซบลงที่ตรงตักแม่"
"อิ่มอุ่น"
อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน
อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร
แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป
ใช่เพียงอิ่มท้อง
ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน
อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร
แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป
ใช่เพียงอิ่มท้อง
ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน
ใครหนอ
ใครหนอ รักเราเท่าชีวี
ใครหนอ ปรานีไม่มีเสื่อมคลาย
ใครหนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย
ใครหนอ รักเราดั่งดวงแก้วตา
นั้้น คือ "แม่"
ค่าน้ำนม
แม่นี้ มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
ตั้งเล็กจนโต โอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอม ย่อมเกิดจาก "รักลูก" ปักดวงใจ
เติบโต โอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร
มิใช่ใดหนาเพราะ "ค่าน้ำนม"
วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555
รักแม่ (แม่คือสุดที่รักและรักที่สุด)
MOTHER'S DAY
โอ้...ดวงใจของแม่นั้นคือลูก
รักพันผูก ฟูมฟัก เฝ้ารักษา
ทะนุถนอม กล่อมเลี้ยง ดวงแก้วตา
เจ้าลูกยา ... คือ "ดวงใจของแม่" เอย
โดย Kwangdiiza
บทความ : แม่ (ผืนฟ้าที่ว่าใหญ่ ไม่เท่า "พระคุณแม่")

คนเราที่เกิดมาทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักคำว่า "แม่"
เพราะแม่เป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้เลี้ยงเฝ้าดูแลเรามาตลอด เป็นผู้รักเรามากกว่าใคร ๆ ที่บอกว่ารักเรา
ไม่ว่าลูกจะทำผิดขนาดไหนแม่ก็ยังให้อภัยแก่ลูกเสมอ บางครั้งลูกทำผิด แม่โกรธ ดุด่า ว่าลูก
แต่แม่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายลูก ความรักมีหลายรูปแบบ เช่น ความรักของหนุ่มสาว ความรักต่อเพื่อน
ความรักต่อครู-อาจารย์ เป็นต้น แต่ความรักเหล่านี้อาจจะลืมเลือนไปได้โดยง่าย
เพราะมันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง เปรียบไม่ได้กับความรักของแม่ที่มีต่อลูก
ซึ่งมีแต่ให้ไม่เคยคิดที่จะได้ตอบแทน คุณของ "แม่" นับว่าเป็นคุณที่ไม่อาจจะตอบแทนได้
นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ กว่าที่แม่จะคลอดเรามาแม่ก็ต้องอุ้มท้องเรามานานนับ 10 เดือน
โดยที่ไม่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการอยู่ในชีวิตประจำวัน พอถึงวันที่คลอด นับแต่วันที่คลอดแม่ก็เฝ้าดูแล
เป็นอย่างดี ไม่ให้ มด ยุง แมลงต่าง ๆ มากัดตัวลูก หาอาหารอย่างดีมาให้ทาน
ไม่เคยเอาสิ่งที่ไม่ดีมาให้ลูกกิน มาถึงทุกวันนี้แม่ก็ยังดูแลเราไม่เคยห่างสายตา เพราะแม่ยังกลัวว่า
ลูกจะหลงผิดทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม่ไม่คิดที่จะให้ลูกทำในสิ่งทดแทนคุณ เพราะแม่คือคนที่รักลูกที่แท้จริง
เป็นผู้ที่คิดแต่จะให้ลูกโดยไม่คิดสิ่งตอบแทนที่ได้จากลูก แม่เป็นผู้ที่สั่งสอนลูกมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต
แม่สอนแต่สิ่งที่ดี นับเป็นคุณ "ครู" คนแรกของลูก แม่อาจเป็นทั้ง แม่, เพื่อน และครู ในเวลาเดียวกันได้
ในยามที่ลูกทุกข์แม่ก็คอยปลอบ ในยามที่ลูกผิดแม่ก็คอยสอน ตักเตือน ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด
ในยามที่ลูกป่วยไข้ก็มีเพียงแม่เท่านั้นที่เฝ้าดูแลไม่ห่าง ไม่เหมือนคนอื่น
ถ้าเราป่วยเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ เพื่อนคนที่เคยบอกว่ารักเรา เขาอาจจะไม่กล้ามาเยี่ยม
เพราะเขากลัวโรคร้ายนั้นจะติดเขา แต่ผุ้เป็นแม่ไม่ว่าโรคนั้นจะร้ายสักเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้ง
ให้ลูกอยู่โดดเดี่ยวมีแต่จะเป็นห่วงลูกเพิ่มขึ้น ลูกยิ่งป่วยหรือเจ็บมากขึ้นเท่าใดผู้เป็นแม่ก็ยิ่งร้อนใจ
เพิ่มขึ้นหลายเท่า แม่ยอมขายที่นา สวน ไร่ เพื่อให้ได้เงินมารักษาลูก เงินไม่พอก็ไปขอยืมเขา
แม้ว่าดอกเบี้ยจะแพงขอเพียงเพื่อได้รักษาให้ลูกได้หาย และมีความสุข แม่ทนทุกข์ยากและลำบาก
ในการทำงาน ตากแดดตัวดำเพื่อให้ลูกชาย หญิง ได้เรียนหนังสือมีความรู้สูงๆ เพื่อไม่ต้องลำบาก
เหมือนแม่ แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาใช้ในครอบครัว และเงินที่ได้มาจากแรงกายของแม่
ส่วนใหญ่ตกไปอยู่ที่ลูก ไม่ว่าลูกจะขอเท่าไรแม่ก็หามาให้ได้เสมอ ลูกสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลไม่ได้ก็ดิ้นรน
ให้ลูกได้เรียนโรงเรียนเอกชน แม้ค่าเล่าเรียนเป็นหมื่นเป็นแสนก็ยอม เพียงแต่ขอให้ลูกได้เรียน
แม่ก็มีความสุข แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่าลูกมาโรงเรียนแล้วเป็นอย่างไร แม่คิดเพียงว่าลูกไปโรงเรียน
คงตั้งใจเรียน และลูกคงเหนื่อย เมื่อลูกกลับถึงบ้านตอนเย็นแม่จะไม่ให้ลูกทำงานบ้านอีก
แต่ลูกบางคนมาโรงเรียนแล้วไม่ได้ตั้งใจเรียนสักเท่าใดเลย แม่ต้องทนลำบากเพื่อให้ลูกได้เรียน
และเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของแม่เราต้องตั้งใจเรียนให้สมกับที่แม่ตั้งความหวังเอาไว้
อย่าให้แม่ผิดหวัง แม่แนะนำตักเตือนก็ต้องเชื่อฟังเพราะสิ่งที่แม่พูดเป็นสิ่งที่ดีไม่ผิด
ปัจจุบันนี้ไม่ว่าแม่พูดอะไรผมจึงไม่เคยคิดที่จะขัดใจแม่ เพราะผมรู้ดีว่าสิ่งที่แม่แนะนำตักเตือน
เพราะแม่หวังดี ไม่มีแม่คนไหนที่จะคิดร้ายต่อลูก ลูกมีกี่คนแม่สามารถเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้นเราผู้เป็นลูกมีแม่เพียงคนเดียวเราต้องดูแลท่านให้เหมือนที่ท่านเคยดูแลเรามา
และหาสิ่งดีๆมาตอบแทนโดยการตั้งใจเรียนเท่านี้แม่ก็ดีใจมากแล้ว ในยามที่แม่แก่ชรา
ผมรู้ดีว่าคนแก่ชราต้องการอยู่ใกล้ลูกๆ หลานๆ ดังนั้นเราก็ต้องเอาใจใส่แม่ของเราให้มากที่สุด

สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)